วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

วันวาเลนไทน์ Saint Valentine's Day

ประวัติ ความเป็นมา วันวาเลนไทน์

         วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด



ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลาย ครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญวาเลนไทน์ ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์และนักบุญมาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็ก ๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับ ๆ ด้วย
และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศรีษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์   

ประวัติเซนต์วาเลนไทน์หรือนักบุญวาเลนไทน์
เป็นพระที่อยู่ในกรุงโรมระหว่างศตวรรษที่ 3 ในเวลานั้นกรุงโรมถูกปกครองโดยจักรพรรดิที่ชื่อว่า "คลอดิอุส" ซึ่งมีนิสัยชอบข่มเหงผู้อื่น ทำให้ไม่เป็นที่รักของประชาชนเท่าใดนัก จักรพรรดิคลอดิอุสต้องการสร้างกองทัพอันยิ่งใหญ่และหวังให้ชายชาวโรมันทั้งหลายอาสาสมัครเข้ามาเป็นทหารในการสงคราม แต่ก็ไม่มีชายคนใดจะกระทำตามนั้น จักรพรรดิคลอดิอุสจึงออกกฏหมายห้า มให้มีการแต่งงานหรืองานหมั้นใด ๆ เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนไม่พอใจรวมทั้งนักบุญวาเลนไทน์เองด้วย
ในเวลาต่อมานักบุญวาเลนไทน์ได้จัดการแต่งงานให้กับคู่หญิงสาวหลายคู่ขึ้นอย่างลับ ๆ ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศการใช้กฏหมายห้ามแต่งงานแล้วก็ตาม นักบุญวาเลนไทน์ยังคงรักที่จะทำพิธีเหล่านี้ โดยภายในงานนั้นจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และท่านนัก บุญเท่านั้น พวกเขาจะกระซิบคำสาบานและคำอธิษฐานต่อกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยเงี่ยหูฟังเสียงการเดินตรวจตราของเหล่าทหารด้วย แต่แล้วคืนหนึ่ง ในขณะที่กำลังทำพิธีแต่งงานอย่างลับ ๆ อยู่นั้นเอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์เกิดได้ยิ นเสียงผีเท้าของทหาร แต่โชคดีที่คู่บ่าวสาวนั้นหนีออกไปจากโบสถ์ได้ทัน
ในที่สุดนักบุญวาเลนไทน์จึงถูกจับขังคุกและถูกทรมานอย่างแสนสาหัส ท่านพยายามให้กำลังใจตัวเองทุก ๆ วัน และแล้ว วันหนึ่งสิ่งวิเศษก็เกิดขึ้น เด็กหนุ่มสาวหลายคนมาที่คุกเพื่อจะมาเยี่ยมท่านนักบุญ พวกเขาโยนดอกไม้และกระดาษซึ่งเขียนข้อความต่าง ๆ เข้าไปทางช่องหน้าต่างของคุก พวกเขาต้องการให้นักบุญวาเลนไ ทน์รู้ว่า พวกเขาเองก็มีความเชื่อและศรัทธาในความรักด้วยเช่นกัน หนึ่งในเด็กสาวเหล่านั้น เป็นลูกสาวของผู้คุม ซึ่งพ่อของเธอได้อนุญาติให้เธอเข้าไปเยี่ยมนักบุญ วาเลนไทน์ได้ในคุก บางครั้งพวกเขาจะนั่งคุยกันนานนับชั่วโมง หล่อนช่วยให้กำลังใจท่านนักบุญ และเห็นด้วยกับการที่ท่านปฏิเสธกฏหมายห้ามการแต่งงานนั้น อีกทั้งยั งสนับสนุนการแต่งงานอย่างลับ ๆ ของท่านนักบุญอีกด้วย
ผู้คุมมีลูกสาวอยู่คนหนึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้าง ระหว่างที่นักบุญวาเลนไทน์ติดคุกอยู่นั้น ลูกสาวผู้คุมก็นำอาหารให้และช่วยติดต่อกับคนนอกคุก ที่นับถือศาสนาศริสต์ให้แก่นักบุญวาเลนไทน์ ขณะที่อยู่ในคุก ช่วงอาทิตย์สุดท้ายในชีวิตของเขานั้น ได้มีสิ่งแปลกป ระหลาดเกิดขึ้น ขณะที่เขาถูกคุมขัง อยู่นั้น ผู้คุมขังได้ขอให้วาเลนตินุส สอนลูกสาวเขาซึ่งตาบอดด้วย จูเลียเป็นคนสวยแต่น่าเสียดาย ที่เธอตาบอดตั้งแต่แรกเกิด วาเลนตินุสได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ต่างๆ สอนเลข และเล่าเรื่องพระเจ้า ให้เธอ ฟัง จูเลียสามารถรับรู้สิ่งต่างๆในโลกนี้ได้ โดยคำบอกเล่าของวาเลนตินุส เธอเชื่อใจเขา และเธอมีความสุขมากเมื่ออยู่กับเขา
วันหนึ่งจูเลียถามวาเลนตินุสว่า "ถ้าเราอธิษฐาน พระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินเราไหม"
เขาตอบ "พระองค์เจ้า จะได้ยินเราแน่นอน ท่านได้ยินเรา ทุกคน"
จูเลียกล่าว "ท่านทราบหรือไม่ว่า ข้าอธิษฐานขออะไร ทุกๆเช้า ทุกๆเย็น….ข้าหวังว่า ข้าจะได้มองเห็น โลก เห็นทุกๆอย่างที่ท่านเล่าให้ข้าฟัง"
วาเลนตินุสจึงบอก"พระเจ้ามอบแต่สิ่งที่ดีที่สุด ให้แก่เราทุกคน เพียงแค่ เรามีความเชื่อมั่น ในพระองค์ท่าน เท่านั้นเอง"
จูเลีย ผู้ซึ่งมีความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า จึงได้คุกเข่า กุมมือ อธิษฐานพร้อมกับ วาเลนตินุส และในขณะนั้นเอง ก็ได้มีแสงสว่างลอดเข้ามาในคุก และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นจูเลียค่อยๆลืมตา พระเจ้า……เธอมองเห็นแล้ว!!!!! เขาและเธอจึงกล่าวขอบคุณต่อพระเจ้า และเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนี้ ได้แพร่หลายไปทั่วราชอาณาจักร
ในคืนก่อนที่วาเลนตินุส จะสิ้นชีวิต โดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้าย ถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine" เขาสิ้นชีพในวัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจาก นั้น ศพของเขาได้ถูกเก็บ ไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูก ต้นอามันต์ หรือ อัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินุส แด่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สี ชมพู ได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพ อันสวยงาม
นักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในปี 296 A.D. ในคุกแห่งนั้นเอง ก่อนตายท่านได้ฝากโน๊ต สั้น ๆ ถึงเพื่อนของท่านและลงท้ายว่า "Love from your Valentine"...ในปี 496 A.D. โป๊ป Gelasius ได้ยกย่องให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญวาเลนไทน์...เราจึงมักถือเอาวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ในระยะต่อมาวันวาเลนไทน์ ใช้แทนความรักของหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันนี้จะมีการส่งขนม (โดยเฉพาะช็อคโกแลต) ดอกไม้ (ส่วนใหญ่จะดอกกุหลาบ) ให้กับคนที่รัก
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงมีประเพณีการแลกเปลี่ยนจดหมายรักซึ่งกันและกันในวันวาเลนไทน์ โดยจะเขียนขึ้นในวันที่นักบุญ วาเลนไทน์เสียชีวิต คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีคริสตศักราช 270 และปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงท่านนักบุญวาเลนไทน์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของวันนี้คือ การมอบความรักและมิตรภาพให้แก่กันและกัน และทุก ๆ ครั้งที่ผู้คนต่างนึกถึงจักรพรรดิคลอดิอุส เขาก็จะจำได้ถึงวิธีการที่คลอดิอุสพยายามจะมาแทนที่หนทางของความรัก แล้วก็จะพากันหัวเร าะ เพราะว่าพวกเขาต่างรู้ดีว่าความรักนั้นไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนหรือแทนที่ได้เลย
วันวาเลนไทน์ เมื่อถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกๆ ปี จะมีหนุ่มสาวหรือคนบางกลุ่มนิยมส่งดอกกุหลาบสีแดง หรือบัตรรูปหัวใจให้แก่กันและกันซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงเจตนารมณ์ของความรักความเข้าใจต่อกัน วันวาเลนไทน์ ธรรมเนียมฝรั่งเขาส่งบัตรหรือของขวัญเล็กๆน้อยๆ ไปให้แก่คนที่เขารั กโดยไม่บอกชื่อผู้ส่ง ซึ่งจะมาจากใครก็ได้


ทำไมจึงมีชื่อว่า "วันวาเลนไทน์"

นักบุญ วาเลนไทน์ (Valentine) เป็นสงฆ์คาทอลิกองค์หนึ่งที่ได้ถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คริสตศักราช 270  ในสมัยพระเจ้าจักรพรรดิโรมัน เกลาดิอุส ที่ 2  ( Clanoius) โดยแท้จริงแล้วท่านนักบุญไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเพณีการเลือกคู่ หรือหาคู่ หรือหาแฟน หรือความรัก  ความสนใจระหว่างหนุ่มสาว ท่านก็ไม่ ได้ไปเกี่ยวข้องด้วยเลย ถ้าเช่นนั้นแล้ว  ทำไมจึงเลือกนักบุญองค์นี้มาเป็นองค์อุปถัมภ์สำหรับผู้ที่กำลังหาคู่ เลือกคู่หรือเลือกแฟนกันได้เล่า ? เหตุผลที่ค้นพบได้ก็คือ ที่มาของวันวาเลนไทน์ ไม่ขึ้นอยู่กับคนผู้นี้ แต่ขึ้นอยู่กับวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ประเพณีเลือกคู่  หรือหาคู่นี้มีมาแต่โบร่ำโบราณในทุกชาติ ดูเหมือนกับว่าได้เกิดขึ้นพร้อมกับวิวัฒนาการของมนุษย์ก็ว่าได้ ประเพณีวาเลนไทน์นี้ก็มีต้นเหตุหรือ ที่มาสมัยที่จักรวรรดิโรมันแผ่อิทธิพลไปทั่ว ชาวโรมันสมัย โบราณมีการฉลองเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ ลูแปร์คูส (Lupercus)  ซึ่งตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และถือว่าเป็นการฉลองใหญ่ ส่วนหนึ่งของการฉลองใหญ่นี้ก็จะเป็นการจัดงานหาคู่ของพวกหนุ่มสาว    ซึ่งจัดขึ้นในวันก่อนวันฉลอง ใหญ่ 1 วัน คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์  นี้จะถือโอกาสให้พวกหนุ่มสาวเสนอตัวเป็นคนรักกันชั่วระยะเวลา 1 ปี ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงทดลองมิตรภาพเพื่อดูว่าทั้งคู่จะมีนิสัยใจคอเข้ากันได้หรือไม่ ชาวโรมันเป็นคนศรั ทธาในเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ   ก็มีความเชื่อกันว่าพวกตนมีเทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งเขาขอให้เป็นผู้ดูแลความรักของเขาในระหว่างช่วงระยะเวลาการทดลองเป็นคู่รักกัน 1 ปี นั้น เทพเจ้าองค์นี้เป็นหญิงชื่อเทพธิดา Juno Februata   ซึ่งตาม เทพนิยายของชาวโรมันเป็นมเหสีของ Jupiter องค์มหาเทพเจ้าทั้งหลาย
ครั้นต่อมา เมื่อชาวโรมันส่วนใหญ่กลับใจมาถือศาสนาคริสต์  (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 4 )   ประเพณีของหนุ่มสาวที่จะหาคู่เพื่อทดลองเป็นคนรักกันเพื่อจะแต่งงานกันในเวลาต่อไปนั้นก็ยังนิยมทำกันอยู่แม้ว่าจะเป็นคริสตชนแล้วก็ตาม ฉะนั้นเขาก็ยังรักษาประเพณีการเลือกคู่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นอยู่ตลอดมา เพียงแต่ว่าหนุ่มสาว โรมันชาวคริสต์ได้หันมาเปลี่ยนตัวผู้อุปถัมภ์องค์ใหม่ เพราะคริสตชนไม่นับถือเทพเจ้าหรือเทพธิดาอย่างกาลก่อน เขาจึงหันมาเลือกหานักบุญในคริสตศาสนาที่มี วันฉลองในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็มี   นักบุญวาเลนไทน์องค์นี้เอง จึงขอยืมชื่อท่านมาเป็นองค์อุปถัมภ์แทนเทพเจ้าเดิมของชาวโรมัน   เรื่องราวความเป็นมามีดังนี้ ฉะนั้นถ้าท่านนักบุญมีชีวิตอยู่ท่านอาจรู้สึกงงงวยในตำแหน่งที่หนุ่มสาวได้เลือกตั้งและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้อุปถัมภ์ โดยที่ท่านไม่ได้รู้เรื่องทางโลกของหนุ่มสาวด้วยเลยแม้แต่น้อย
ความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นอาจจะเผชิญกับอันตรายบางอย่าง และอาจจะเป็นโอกาสให้พลังและความรักนั้นทำลายความสัมพันธ์อันสูงส่งระหว่างหนุ่มสาวนั้ นเอง   ความหมายของการมีวันวาเลนไทน์นี้ก็คือการช่วยหนุ่มสาวหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันด้วยใจบริสุทธิ์
ความหมายเห็นได้ชัดในคำว่า “You are my Valentine” ที่มักจะเขียนลงในบัตรส่งใจถึงกันและกัน ประ โยคตามความหมายเดิม   หมายถึงว่า    “ข้าพเจ้าขอเสนอตัวเป็นเพื่อนสนิทของท่านในช่วงเวลา 1 ปี และข้าพเจ้าพร้อมที่จะตกลงแต่งงานกับท่าน ถ้ามิตรภาพของเรานี้เป็นสิ่งที่ยืนยง”
ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวที่จะช่วยให้ก้าวหน้าในความรักที่แท้จริงนั้น ก็ควรจะประกอบด้วย 3 ข้อด้วยกัน ดังนี
ให้รู้จักกันทั้งในด้านดี ในด้านเสีย และข้อผิดพลาดซึ่งต่างก็มีอยู่ และยอมรับซึ่งกันและกันในข้อเหล่านั้น
ให้เคารพและเห็นใจกัน โดยเสียสละต่อกันเพื่อให้คนรักของตนได้รับความดี และความสุขใจในทางที่บริสุทธิ์งดงาม
ให้มีการปรับปรุง และเปลี่ยนนิสัยของตนในส่วนที่บกพร่อง เพื่อจะอยู่กันด้วยความสุขในอนาคต
ลักษณะทั้งสามดังกล่าวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับหนุ่มสาวไทยไม่เฉพาะในวันวาเลนไทน์หรือสำหรับกลุ่มที่นิยมประเพณีต่างประเทศเท่านั้น  แต่สำหรับทุกคู่ที่แสวงหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันอันจะนำไปสู่ความรักที่มั่นคงและยั่งยืนชั่วชีวิต



ของขวัญ วันวาเลนไทน์




ดอกไม้จากใจ

         เป็นของยอดฮิตที่สุด ในวันวาเลนไทน์ เพราะความหมาย ก็คือแทนคำว่ารัก ได้ดีที่สุด ดอกไม้ที่ขายดีที่สุดอันดับแรกคือ กุหลาบแดง ซึ่งหมายถึง การบอกว่าฉันรักเธอ ซึ่งหนุ่ มสาวมักจะให้กัน กุหลาบขาว หมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์งดงาม ส่วนคนที่ให้ กุหลาบสีเหลือ ง คือการแทนความห่วงใยให้กัน และแทนมิตรภาพระหว่างเพื่อน ส่วนคนที่ให้กุหลาบขาว นันหมายถึงความอันบริสุทธิ์ แนบแน่น สำหรับดอกอื่นๆ เช่น ลิลลี่สีขาว ก็เป็นที่นิยมให้กัน หมายถึงคุณเป็นคนที่โรแมนติค อ่อนหวาน ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง ความรักอย่างสุดซึ้ง ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ดอกคาเนชั่นสีขาว เมืองฝรั่งเขาถือว่าเป็นดอกไม้งานศพนะจ๊ะ

แทนความรักอันยืนยง ดอกมัมสีแดง แทน คำว่ารักอันสดใส หนุ่มสาวมักให้กัน ดอกมัมสีเหลือง แทนความรักแรกแย้ม หรือ ดอกทิวลิปสีแดง ที่แทนความหมายที่ ความรักที่พร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีดอกไม้อื่นๆอีกมากมาย ที่ให้ได้แต่คงเน้นที่ความหมายและวัยของคนที่รับเป็นหลัก
คำแนะนำ ดอกไม้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย คงเน้นว่าคนที่คุณให้เขาชอบดอกไม้อะไรเป็นหลัก นอกจากนั้นก็ดูที่เพศหรือวัยให้เหมาะสม บางทีก็ไม่จำเป็นต้ องเว่อจนเกินไปหรอก ส่วนสถานที่ซื้อก็เลือกหาตามร้านดอกไม้ทั่วๆไป


ช็อกโกแลตแทนใจ

    แทนความรัก ถือเป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 2 ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งก็แพร่หลายมาจากต่างประเทศ วัยรุ่นไทยก็มาเลียนแบบเหมือนเดิม จนเป็นที่นิยมอย่างมากมาย ปัจจุบันก็มีร้านที่รับทำช็อกโกแลตในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะทรงหัวใจนี้ขายดีมากๆ และราคาก็สูงเป็นพิเศษด้วย

คำแนะนำ ช็อกโกแลต คงจะเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า ส่วนคนทำงานทั่วไปก็ให้ได้ แต่ที่แน่ๆ ผู้สูงอายุไม่แนะนำ เพราะอาจทำให้ฟันผุ ส่วนสถานที่ซื้อก็หาได้หลายที่ ถ้าทั่วๆไปก็ซื้อตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไป แต่หากจะเป็น ช็อกโกแลตดีๆหรือประเภทสั่งทำ ก็มีตามร้านขายหรือตามร้านซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงแรมทั่วไป


เครื่องประดับ

          เครื่องประดับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นิยมให้กันในวันวาเลนไทน์อย่างมาก โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่รักจริงหวังแต่ง  เพราะเครื่องประดับแสนหวานแต่ละอย่างที่สาว ๆ ชอบ ไม่ว่าจะเป็น สร้อย แหวน ต่างหูนั้น หนุ่ม ๆ คงต้องทุ่มทุนสร้างกันพอตัว  ซึ่งถ้าหนุ่ม ๆ คนไหนมอบเครื่องประดับให้กับคนรักในวันวาเลนไทน์นั้น รับรองว่าจะได้รอยยิ้มระยิบระยับที่เหมือนจิวเวอรี่ของสาว ๆ อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าบนเครื่องประดับมีอักษรเป็นชื่อของหญิงสาว หรือ คำว่า LOVE นั้น ได้ใจสาว ๆ ไปทั้งดวงชัวร์! (และคงไม่มีสาว ๆ คนไหนปฏิเสธเครื่องประดับเหล่านี้แน่ ๆ ใช่ไหมเอ่ย )




การ์ดแห่งรัก 

       แทนความห่วงใยและรัก เป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 3 ที่นิยมให้กันในวันนี้ ส่วนใหญ่การ์ดให้ได้ในทุกๆงาน และก็มักให้คู่กับของ ขวัญอื่นๆเช่น ดอกไม้ หรือ ช็อกโกแลต ข้อดีของมันก็คือราคาที่ไม่แพง และหาซื้อได้ง่าย ทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถบอกความในใจได้ด้วยคำบรรยาย

   คำแนะนำ เป็นสินค้าที่ให้กันได้ทุกเพศวัย แต่ควรเลือกการ์ดที่เหมาะกับวัยของคนที่ให้ และถ้ารู้ว่าขอชอบรูปแบบไหน หรืออะไรได้ยิ่งดี และหากจะให้ประทับใจหน่อยสำหรับคนรัก หรือวัยรุ่นก็น่าจะมีเสียงเพลงเสียหน่อย จะดีมาก ส่วนสถานที่ซื้อการ์ด ห้างสรรพสินค้าที่ไหนก็มีจ้า
   

ตุ๊กตาสื่อรัก

         แทนคำว่ารักและชอบ สินค้ายอดนิยมอันดับ 4 ที่นิยมให้กันมาก ตุ๊กตานี้เป็นสินค้าที่ให้กันได้ตลอดที่เทศกาลแห่งความสุขจริงๆ ส่วนใหญ่ตุ๊กตาที่ให้กันในเทศกาลวาเลนไทน์ ก็จะเป็นประเภทน่ารักๆ ไม่ได้เน้นความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็คงจะดูสถานะภาพกระเป๋าตัวเองเป็นหลัก

    คำแนะนำ เหมาะสำหรับให้กับวัยรุ่น ฝ่ายหญิงมากกว่า เสียมากกว่า ควรเลือกตุ๊กตาที่คนที่รับชอบ หรือถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ให้ตุ๊กตาห มี หรืออะไรก็ได้ที่น่ารักๆ แต่อย่าสื่อไปในทางที่เลวร้าย เช่น ตุ๊กตาควาย เพราะอาจจะโดนตบได้ ส่วนสถานที่ซื้อก็หาซื้อได้ทั่วไป ตามห้างสรรพสินค้า หรือย่านขายของต่างๆ


ของทำมือ(แฮนเมด)

            สิ่งของที่แสดงความรักนั้นไม่จำเป็นต้องมีค่าหรือราคาแพงมากนัก เพียงแค่เราประดิษฐ์สิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ์ด ตุ๊กตาตัวน้อย ๆ ใส่พวงกุญแจ สิ่งเล็กน้อยเพียงเท่านี้ก็สามารถแสดงออกถึงความรักความจริงใจของคุณที่มีให้กับคนรักได้แล้ว แถมยังเป็นชิ้นเดียวในโลกด้วยนะ




กรอบรูป
แทนความคิดถึงและผูกพัน อันนี้ก็ให้กันก็ให้กันมาก เพราะเป็นสินค้าที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงมาก นอกจากนี้ยังเป็นสินค้าที่ผูกพันทางใจ โดยเฉพาะวัยรุ่นนี่ให้กันมาก ราคา 50 บาทก็หาซื้อกันได้แล้ว ซึ่งบางทีให้เก๋ก็ใส่รูปคนให้ไปด้วย เอาไว้ดูต่างหน้าแก้คิดถึง
คำแนะนำ ของขวัญชิ้นนี้ ส่วนใหญ่วัยรุ่น เขาจะนิยมให้กัน แต่ถ้าคนวัยทำงาน หรือคนทั่วๆไปก็ไม่แปลกอะไร อีกข้อหนึ่งก็คือ ส่วนใหญ่คนให้คนรับ ควรจะเป็นคนโสด หรือว่ารักกันหวานแหวว แต่เพื่อนให้เพื่อนคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ส่วนสถานที่ซื้อสินค้าก็หาเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไป



 แหวน
     ของขวัญแทนใจ ที่ส่วนใหญ่ชายมักมอบให้หญิง คบกันและและรู้จักกันมาก จนมั่นใจว่า เธอคนนั่นรักตอบ เพราะแหวนเป็นเสมือนสิ่งแทนใจ และจับจองหัวใจไว้ ซึ่งก็นั่นหมายถึงคู่รักที่ให้แก่กัน

คำแนะนำ ส่วนใหญ่จะเป็นคู่รักให้กัน ฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิง และคงต้องเลือกให้ถูกใจผู้รับเป็นพิเศษ ถ้าพาไปเลือกด้วยเลยก็จะดี แหวนส่วนใหญ่แหวนที่ให้กันจะเป็นแหวนรูปหัวใจ หรือชื่อย่อ แต่การที่มีคนให้แหวน นั้นหมายถึงเขาจับจองตีตราคุณแล้วนะ


ดินเนอร์สุดหวาน

           และที่ขาดไม่ได้เลยในวันแห่งความรัก นั้นก็คือดินเนอร์สุดพิเศษที่สามารถสร้างบรรยากาศแสนหวานในวันวาเลนไทน์นี้ให้โรแมนติกยิ่งกว่าเดิม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบใด ร้านอาหาร บ้าน ริมทะเล หรือสวนสาธารณะ ก็ไม่สำคัญ เพราะเพียงเรามีคนรักอยู่ข้าง ๆ ที่ไหนก็มีความสุขได้จริงไหมละคะ 

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

วันครู

ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตรานุสาสกา

ข้าขอประณตน้อมสักการ
บูรพคณาจารย์
ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา 
อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์ 
ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา 
ขอเดชกตเวทิตา 
อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน 
ศึกษาสำเร็จทุกประการ 
อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี 
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี 
แก่ชาติและประเทศไทยเทอญ

ปัญญาวุฒิ กเรเตเต ทินโนวาเท นมามิหัง..



วันครู

 ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ 

ครูนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่ สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งนำพาสังคมประเทศชาติ ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ฉะนั้นวันที่ 6 ตุลาคม จึงได้เป็นวันครูสากล เพื่อคนที่เป็นครูทั่วโลกที่เสียสละนำพาเราทุก ๆคน ไปถึงฝั่งฝันนั่นเอง 


ประวัติความเป็นมา

          วันครู ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ.2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภา เป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครู และครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้ และความสามัคคีของครู 

          ทุกปีคุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา เป็นผู้ตอบข้อสงสัย สถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา 

พ.ศ.2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป.พิบูล สงคราม นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า 

          "ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่า วันครู ควรมีสักวันหนนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพสักการะต่อวันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง" 

          จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ให้มีวันครูเพี่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพจารย์ ส่งเสริมความสามัคคีธรรมระหว่างครูและพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน 

          คณะมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น วันครู โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2488 เป็น วันครู และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว 


แม้งานหนักเหน็ดเหนื่อยไม่เคยบ่น
สู้อดทนส่งเสริมศิษย์พิชิตฝัน
สู้อุตส่าห์สั่งสอนทุกวี่วัน
จิตมุ่งมั่นอบรมจริยา


หวังเห็นศิษย์ก้าวหน้าในชีวิต
โดยอุทิศแรงกายให้สมค่า
คำว่าครูผู้ที่ใช้ซึ่งปัญญา
แก้ปัญหานานาประการ


มีเมตตาปรานีเป็นที่ตั้ง
คอยเหนี่ยวรั้งศิษย์รักทุกสถาน
คอยชี้แนะช่วยเหลือและเจือจาน
ศิษย์จึงผ่านอุปสรรคทุกสิ่งไป


แม้งานหนักอย่างไรไม่เคยท้อ
เพียงแต่ขอศิษย์รักที่เติบใหญ่
มีวิชาความรู้ตลอดไป
เพื่อไว้ใช้เลี้ยงชีพสำหรับตน


ขอน้อมจิตวันทาบูชาครู
ขอเชิดชูปูชนีย์คุณมากล้น
ขอกตัญญูต่อครูทุกทุกคน
ขอกุศลแห่งความดีคุ้มครองครู ฯ




วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

วันเด็ก




วันเด็กแห่งชาติ เป็นวันสำคัญในประเทศไทยตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป (วันจันทร์) มีการให้ คำขวัญวันเด็ก ทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น



ประวัติ

งานวันเด็กแห่งชาติจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2498 ตามคำเชิญชวนของ นายวี.เอ็ม. กุลกานี ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ
รัฐบาลได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นมาคณะหนึ่ง ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน กำหนดให้มีการฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำคัญของตน เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
งานวันเด็กแห่งชาติจัดขึ้นทุกปีในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมจนถึง พ.ศ. 2506 และใน พ.ศ. 2507 ไม่สามารถจัดงานวันเด็กได้ทัน จึงได้เริ่มจัดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2508 โดยเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงหมดฤดูฝนและเป็นวันหยุดราชการ จนถึงทุกวันนี้



คำขวญวันเด็ก

ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ ของเด็กจึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคิด สำหรับเด็ก นายกรัฐมนตรี ในสมัยต่อ ๆ มา จึงได้ถือปฎิบัติสืบต่อมาดังต่อไปนี้
 พ.ศ.2543 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย 

 พ.ศ.2544 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย 
 พ.ศ.2545 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส 
 พ.ศ.2546 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี 
 พ.ศ.2547 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน 
 พ.ศ.2548 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร  - เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด 
 พ.ศ.2549 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร  - อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
 พ.ศ.2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข 
 พ.ศ.2551 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม 
 พ.ศ.2552 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
 พ.ศ.2553 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม
 พ.ศ.2554 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ
 พ.ศ.2555 - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - "สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี"


วัตถุประสงค์

  สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่รัฐบาลไทยกำหนดไว้ คือ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็ก และช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กและและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตนและอยู่ในระเบียบวินัยอันดี และเพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก

         นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า ทุก ๆ ปี ในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะพระราชทานพระบรมราโชวาท สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงโปรดประทานพระคติธรรม และ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีจะมอบคำขวัญวันเด็ก แสดงให้เห็นว่าเด็กเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุดของชาติ เราจึงได้ยินคำพูดอยู่บ่อย ๆ ว่า "เด็กคืออนาคตของชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ"






วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ASEAN อาเซ๊ยน

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Association of South East Asian Nations) หรือ อาเซียน เป็นองค์กรทางภูมิรัฐศาสตร์และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า อาเซียนมีพื้นที่ราว 4,435,570 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 590 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2553 จีดีพีของประเทศสมาชิกรวมกันคิดเป็นมูลค่าราว 1.8 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นลำดับที่ 9 ของโลกเรียงตามจีดีพี มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ


ความเป็นมา

อาเซียนมีจุดเริ่มต้นจากสมาคมอาสา ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2504 โดยไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ แต่ได้ถูกยกเลิกไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2510 ได้มีการลงนามใน "ปฏิญญากรุงเทพ" อาเซียนได้ถือกำเนิดขึ้นโดยมีรัฐสมาชิกเริ่มต้น 5 ประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความร่วมมือในการเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม วัฒนธรรมในกลุ่มประเทศสมาชิก และการธำรงรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และเปิดโอกาสให้คลายข้อพิพาทระหว่างประเทศสมาชิกอย่างสันติ หลังจาก พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา อาเซียนมีรัฐสมาชิกเพิ่มขึ้นจนมี 10 ประเทศในปัจจุบัน กฎบัตรอาเซียนได้มีการลงนามเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 ซึ่งทำให้อาเซียนมีสถานะคล้ายกับสหภาพยุโรปมากยิ่งขึ้น เขตการค้าเสรีอาเซียนได้เริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2553 และกำลังก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งจะประกอบด้วยสามด้าน คือ ประชาคมอาเซียนด้านการเมืองและความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2504 โดยประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ได้ร่วมกันจัดตั้งสมาคมอาสา (ASA, Association of South East Asia) ขึ้นเพื่อการร่วมมือกันทาง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม แต่ดำเนินการได้เพียง 2 ปี ก็ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากความผกผันทางการเมืองระหว่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย จนเมื่อทั้งสองฟื้นฟูสัมพันธภาพระหว่างกัน จึงได้มีการแสวงหาลู่ทางจัดตั้งองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจขึ้นในภูมิภาค "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" และถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยสมัยรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร โดยมีการลงนาม "ปฏิญญากรุงเทพ" ที่พระราชวังสราญรมย์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 ซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกก่อตั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ อาดัม มาลิกแห่งอินโดนีเซีย, นาร์ซิโซ รามอสแห่งฟิลิปปินส์, อับดุล ราซัคแห่งมาเลเซีย, เอส. ราชารัตนัมแห่งสิงคโปร์ และถนัด คอมันตร์แห่งไทย ซึ่งถูกพิจารณาว่าเป็นบิดาผู้ก่อตั้งองค์กร


จุดประสงค์ของการจัดตั้ง

ความประสงค์ของการจัดตั้งกลุ่มอาเซียนขึ้นมาเกิดจากความต้องการสภาพแวดล้อมภายนอกเพื่อที่ผู้ปกครองของประเทศสมาชิกจะสามารถมุ่งความสนใจไปที่การสร้างประเทศ ความกังวลต่อการแพร่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์ร่วมกัน ความศรัทธาหรือความเชื่อถือต่อมหาอำนาจภายนอกที่เสื่อมถอยลงในช่วงพุทธทศวรรษ 2500 รวมไปถึงความต้องการการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การจัดตั้งกลุ่มอาเซียนมีวัตถุประสงค์แตกต่างจากสหภาพยุโรป เพราะกลุ่มอาเซียนถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนความเป็นชาตินิยม

จากสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีการสรุปแนวทางของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้จำนวนหกข้อ ดังนี้
  1. ให้ความเคารพแก่เอกราช อำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียม บูรณภาพแห่งดินแดนและเอกลักษณ์ของชาติสมาชิกทั้งหมด
  2. รัฐสมาชิกแต่ละรัฐมีสิทธิที่จะปลอดจากการแทรกแซงจากภายนอก การรุกรานดินแดนและการบังคับขู่เข็ญ
  3. จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของรัฐสมาชิกอื่น ๆ
  4. ยอมรับในความแตกต่างระหว่างกัน หรือแก้ปัญหาระหว่างกันอย่างสันติ
  5. ประณามหรือไม่ยอมรับการคุกคามหรือการใช้กำลัง
  6. ให้ความร่วมมือระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ


ประเทศสมาชิก




บรูไน (Brunei) หรือ รัฐบรูไนดารุสซาลาม (State of Brunei Darussalam) (มาเลย์Negara Brunei Darussalam)






กัมพูชา หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรกัมพูชา (เขมรព្រះរាជាណាចក្រកម្ពុជា พฺระราชาณาจกฺรกมฺพุชา






นโดนีเซีย หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (อินโดนีเซียRepublik Indonesia)






ประเทศลาว หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ลาวສາທາລະນະລັດປະຊາທິປະໄຕປະຊາຊົນລາວ, อักษรย่อ: ສປປ.ລາວ; อังกฤษLao People's Democratic Republic)





ประเทศมาเลเซีย (อังกฤษMalaysia)



ไฟล์:Flag of Myanmar.svg


ประเทศพม่า (อังกฤษBurma หรือ Myanmar) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า (อังกฤษRepublic of the Union of Myanmar)



ไฟล์:Flag of the Philippines.svg

ประเทศฟิลิปปินส์ (อังกฤษPhilippines) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (อังกฤษRepublic of Philippinesภาษาฟิลิปิโน: Republika ng Pilipinas)


ไฟล์:Flag of Singapore.svg


สิงคโปร์ (อังกฤษSingapore) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐสิงคโปร์ (อังกฤษRepublic of Singapore)




ไฟล์:Flag of Thailand.svg


ประเทศไทย หรือชื่อทางการว่า ราชอาณาจักรไทย (Thailand)



ไฟล์:Flag of Vietnam.svg


ประเทศเวียดนาม (เวียดนามViệt Nam) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (เวียดนามCộng hòa xã hội chủ nghĩa Việt Nam, ก่ง หั่ว ซ้า ห่ย จู๋ เงี้ย เหวียต นาม)